วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2552











เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ต้าน ICAP พบ รมว.สธ.
9 กันยายน 2552
สธ. 8 ก.ย. - เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ ยื่นหนังสือห้าม “วิทยา” หารือร่วมกับ ICAP ซึ่งเป็นองค์กรวิชาการที่มีบริษัทเหล้าอยู่เบื้องหลัง พร้อมเรียกร้องคนไทยจับตามาตรการควบคุมเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษา
ที่ กระทรวงสาธารณสุข เมื่อเวลา 13.30 น. เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ประมาณ 50 คน นำโดยนายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ เข้ายื่นหนังสือถึงนายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) โดยมีนายมานิต นพอมรบดี รัฐมนตรีช่วยว่าการ สธ. รับเรื่องแทน นายคำรณ กล่าวว่า เนื่องจากเครือข่ายฯ ทราบมาว่าตัวแทนจาก International Center for Alcohol Policy (ICAP) จากประเทศสหรัฐอเมริกา จะเข้าพบนายวิทยา ในวันพรุ่งนี้ (9 ก.ย.) เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการจัดการปัญหาแอลกอฮอล์ในประเทศไทย จึงขอแสดงจุดยืนเรียกร้องให้รัฐบาลไทย โดยรัฐมนตรีว่าการ สธ. ไม่ควรให้ ICAP เข้าพบเพื่อแนะนำมาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะเป็นที่รับรู้ในเครือข่ายนโยบายแอลกอฮอล์สากล และองค์การอนามัยโลก ว่า ICAP เป็นเพียงองค์กรหน้าฉาก ที่มีบริษัทเหล้าข้ามชาติหลายยี่ห้อรวมตัวกันอยู่เบื้องหลัง สนับสนุนให้องค์กรนี้ทำตัวเป็นหน่วยงานวิชาการระดับโลกในประเด็นเครื่องดื่ม แอลกอฮอล์ โดยทั้งหมดมีผลประโยชน์ทางธุรกิจมากกว่าห่วงใยสังคม ดังนั้นองค์กรภาคประชาชนที่มีภาคีถึง 264 องค์กร ขอแสดงจุดยืนไม่ยอมรับบทบาทของ ICAP และเรียกร้องให้คนไทยช่วยกันจับตามาตรการควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะมาตรการควบคุมเหล้าปั่นและร้านเหล้ารอบสถานศึกษาว่าจะถูกตัดทอนหรือ ไม่ ด้านนายมานิต กล่าวว่า จะเสนอเรื่องให้นายวิทยาทราบว่า เครือข่ายฯ ได้มาเรียกร้องดังกล่าว สำหรับตนยืนยันไม่มีนัดกับ ICAP และไม่เห็นประโยชน์ว่าจะมาล็อบบี้กับตนเพื่ออะไร ส่วนมาตรการควบคุมเหล้าปั่น ขณะนี้ได้ประสานกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด รวมถึงสถานศึกษา ร่วมจัดทำแผนที่ร้านขายเหล้าปั่น เพื่อกำหนดโซนนิ่ง และการดำเนินการตามมาตรการควบคุม ทั้งนี้ผู้แทนเครือข่ายฯ ยังได้เผาพริกเผาเกลือและจุดประทัดเพื่อแสดงจุดยืนไม่ยอมรับ ICAP และหาก สธ.ไม่ฟังเสียงทักท้วง ยอมให้ ICAP เข้าหารือ เครือข่ายฯ จะกำหนดท่าทีในการเคลื่อนไหวต่อไป ข่าวจากโก้หลุยส์โอโลcitty

สิงโตคำราม อังกฤษ เข้ารอบสุดท้ายฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้ตามคาด หลังเปิดเวมบลีย์ถล่มโครเอเชีย 5-1 ด้าน กระทิงดุ สเปน ไม่น้อยหน้าทำสถิติชนะรวด 8 นัดยำ เอสโตเนีย 3-0 เข้ารอบสุดท้ายแล้วเช่นกัน ขณะที่ ตราไก่ ฝรั่งเศส แค่เสมอ เซอร์เบีย 1-1 ในเกมที่เล่นข้างละ 10 คน
ศึกฟุตบอลโลกรอบ คัดเลือกโซนยุโรปกลุ่ม 6 "สิงโตคำราม" อังกฤษ เปิดสนามเวมบลีย์รับการมาเยือนของ "หมากรุก" โครเอเชีย เกมนี้หากว่าเจ้าถิ่นเอาชนะได้จะเข้ารอบสุดท้ายอย่างแน่นอน และเพียงแค่นาทีที่ 7 ก็ได้ประตูนำก่อนเมื่อ แอรอน เลนนอน โดน โจซิป ซิมูนิช เกี่ยวล้มเป็นจุดโทษ แฟรงค์ แลมพาร์ด สังหารเป็น 1-0 ก่อนที่นาทีที่ 18 เลนนอน เปิดจากทางขวาให้ สตีเวน เจอร์ราร์ด โหม่งเข้าไปอีกประตู จบครึ่งแรก อังกฤษ นำ 2-0ครึ่งหลังกลับมา เล่นถึงนาทีที่ 59 เจ้าถิ่นได้ประตูที่ 3 เมื่อ เกล็น จอห์นสัน เปิดบอลให้ แลมพาร์ด โขกเหน่งๆ เป็น 3-0 ตามด้วยการโหม่งของ เจอร์ราร์ด เป็น 4-0 นาทีที่ 67 ก่อนที่อีก 5 นาทีต่อมา เอดูอาร์โด ดาซิลวา ยิงซ้ำบอลที่หน้าประตูตีไข่แตกให้ โครเอเชีย เป็น 1-4 แต่สุดท้าย เวย์น รูนีย์ มาเก็บบอลส้มหล่นยิงปิดท้ายให้อังกฤษได้อีกประตูทำให้ อังกฤษ ชนะขาดถึง 5-1 ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่แอฟริกาใต้แน่นอนแล้ว จากการชนะรวด 8 นัด มี 24 แต้มผลคู่อื่นๆ ของกลุ่มนี้ อันดอร์รา แพ้ คาซัคสถาน 1-3, เบลารุส เสมอ ยูเครน 1-1 ทำให้ โครเอเชีย ยังเป็นอันดับ 2 ของกลุ่มมี 17 แต้มนำหน้า ยูเครน 2 แต้ม แต่ลงสนามมากกว่า 1 นัดกลุ่ม 1 "ฝอยทอง" โปรตุเกส ยังมีลุ้นเข้ารอบหลังบุกไปชนะ ฮังการี 1-0 จากประตูของ เปเป้ นาทีที่ 10 ขณะที่ เดนมาร์ก แค่เสมอ แอลเบเนีย 1-1 และ สวีเดน บุกชนะ มอลตา 1-0 ทำให้กลุ่มนี้ เดนมาร์ก ยังนำมี 18 แต้ม ตามมาด้วย สวีเดน 15 แต้ม และ โปรตุเกส กับ ฮังการี 13 แต้ม ยังได้ลุ้นกันทุกทีมกลุ่ม 2 อิสราเอล ชนะ ลักเซมเบิร์ก 7-0, แลตเวีย เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 และ มอลโดวา เสมอ กรีซ 1-1 สวิตเซอร์แลนด์ นำมี 17 แต้ม ตามด้วย กรีซ กับ แลตเวีย 14 แต้ม และ อิสราเอล 12 แต้มกลุ่ม 3 สโลวาเกีย ยังนำห่างเป็นจ่าฝูงหลังบุกไปชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 2-0 ขณะที่ สาธารณรัฐเช็ก ถล่ม ซานมาริโน 7-0 และ สโลวีเนีย ชนะ โปแลนด์ 3-0 สรุปอันดับคะแนน สโลวะเกีย 19 แต้ม, สโลวีเนีย กับ ไอร์แลนด์เหนือ 14 แต้ม, เช็ก 12 แต้ม และ โปแลนด์ 11 แต้มกลุ่ม 4 "อินทรีเหล็ก" เยอรมนี เปิดบ้านยำ อาเซอร์ไบจาน 4-0 จากจุดโทษของ มิชาเอล บัลลัค นาทีที่ 14, มิโรสลาฟ โคลเซ นาทีที่ 55 กับ 65 และ ลูคัส โพโดลสกี้ นาทีที่ 70 แต่ "หมีขาว" รัสเซีย ยังจี้ติดด้วยการบุกไปชนะ เวลส์ 3-1 จากประตูของ อีกอร์ เชมชอฟ นาทีที่ 36, เซอร์เก อิกนาเชวิช นาทีที่ 71 และ โรมัน พาฟลิวเชนโก้ นาทีที่ 90 ส่วนเจ้าถิ่นได้จาก เจมส์ คอลลินส์ นาทีที่ 54 ผลอีกคู่ ลิกเทนสไตน์ เสมอ ฟินแลนด์ 1-1 สรุปอันดับคะแนน เยอรมนี 22 แต้ม กับ รัสเซีย 21 แต้ม ต้องวัดกันต่อใน 2 นัดสุดท้ายกลุ่ม 5 "กระทิงดุ" สเปน ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแน่นอนแล้วหลังเอาชนะ เอสโตเนีย 3-0 จาก เชส ฟาเบรกาส นาทีที่ 33, ซานติ กาซอร์ลา นาทีที่ 82 และ ฆวน มาตา นาทีที่ 90 ชนะรวด 8 นัด มี 24 แต้ม ผลคู่อื่นๆ อาร์เมเนีย ชนะ เบลเยียม 2-1, บอสเนีย เสมอ ตุรกี 1-1 บอสเนีย มี 16 แต้ม ลุ้นเป็นที่ 2 กับ ตุรกี ที่มี 12 แต้มกลุ่ม 7 "ตราไก่" ฝรั่งเศส เล่นเกมสำคัญไปเยือน เซอร์เบีย และพลาดเหลือ 10 คนตั้งแต่นาทีที่ 9 เมื่อ ฮูโก้ ยอริส นายทวารโดนใบแดงก่อนที่ เนนัด มิลิยาส จะยิงจุดโทษให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 นาทีที่ 13 แต่ เธียร์รี อองรี ตีเสมอให้ทีมเยือนได้นาทีที่ 31 และแม้ว่า ดานโก้ ลาโซวิช ของเซอร์เบียจะโดนใบแดงบ้างนาทีที่ 90 แต่ก็ทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้เสมอกันไป 1-1 ผลคู่อื่นๆ หมู่เกาะแฟโร ชนะ ลิทัวเนีย 2-1, โรมาเนีย เสมอ ออสเตรีย 1-1 อันดับคะแนนกลุ่มนี้ เซอร์เบีย 19 แต้ม, ฝรั่งเศส 15 แต้ม, ออสเตรีย 11 แต้ม และ ลิทัวเนีย กับ โรมาเนีย 9 แต้ม โดยเหลือเกมอีก 2 นัด กลุ่ม 8 "อัซซูรี่" อิตาลี แชมป์เก่าเปิดบ้านเอาชนะ บัลแกเรีย 2-0 จาก ฟาบิโอ กรอสโซ นาทีที่ 11 กับ วินเชนโซ ยาคินตา นาทีที่ 40 ผลอีกคู่ มอนเตเนโกร เสมอ ไซปรัส 1-1 อันดับคะแนนกลุ่มนี้ อิตาลี 20 แต้ม, ไอร์แลนด์ 16 แต้ม และ บัลแกเรีย 11 แต้มกลุ่ม 9 "วิสกี้" สกอตแลนด์ ตกรอบแบบน่าเจ็บใจเมื่อแพ้ต่อ "กังหันสีส้ม" ฮอลแลนด์ ที่เข้ารอบไปแล้ว 0-1 จากประตูของ เอลเยโร เอเลีย นาทีที่ 82 ขณะที่ นอร์เวย์ ชนะ มาซิโดเนีย 2-1 ทำให้ ฮอลแลนด์ ชนะรวด 8 นัด และ นอร์เวย์ ขึ้นมาเป็น 10 แต้มเท่ากับ สกอตแลนด์ แต่ประตูได้เสียดีกว่าจึงได้เป็นอันดับ 2 ลุ้นเป็น 1 ใน 8 ทีมที่ไปเพลย์ออฟต่อไปด้านการเพลย์ออฟโซนเอเชีย ซาอุดีอาระเบีย ที่เข้ารอบสุดท้ายมาตลอดช่วง 16 ปีหลังสุดเล่นในกรุงริยาดกับ บาห์เรน หลังจากนัดแรกเสมอกันมา 0-0 เกมนี้ นาสเซอร์ อัล ชามรานี ยิงให้เจ้าบ้านได้เปรียบ 1-0 ตั้งแต่นาทีที่ 13 แต่ เจย์ซี จอห์น มาตีเสมอให้ทีมเยือนเป็น 1-1 นาทีที่ 42เกมนี้น่าจะ ตกเป็นของ ซาอุดีอาระเบีย เมื่อ ฮาหมัด อัล มอนตาชารี โหม่งให้ทีมนำอีกครั้งในช่วงทดเวลาเจ็บของครึ่งหลัง แต่ช่วงเวลาที่เหลือกลับกลายเป็น บาห์เรน ที่ตีเสมอได้จากการโหม่งของ อิสมาอิล อับดุลาทีฟ ทำให้จบเกมเสมอกันไป 2-2 และเป็น บาห์เรน ที่เข้ารอบด้วยกฎประตูทีมเยือนไปเพลย์ออฟกับ "กีวี" นิวซีแลนด์ แชมป์โอเชียเนีย ต่อไป